ขอบคุณค่ะ คุณมาโนช
กำลังอยู่ในช่วงพยายามศึกษาค่ะ
คุณมาโนชคะ ขอลิงค์กราฟที่คุณมาโนชเอามาลงให้ดูได้ไหมคะ
ที่เป็นกราฟการลงทุนระยะยาวน่ะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
Public Chart Lists : Stockcharts.com
http://stockcharts.com/def/servlet/Favorites.CServlet?obj=ID1209336&cmd=show[s49725940]&disp=P
ผมขออนุญาต .. เล่าประสบการณ์ "การลงทุนระยะยาว" หน่อยนะครับ
การลงทุนระยะยาว .. น่าจะลงทุนเมื่อได้ "ราคาทองคำที่ใกล้จุดปรับฐานแล้ว"
เพราะจะเป็น "ราคาต่ำ .. ที่ลดความเสี่ยง" ของ .. การติดดอยได้ดี
และสามารถทำกำไรได้ .. ในอัตราส่วนที่สูงกว่า ราคาที่เข้าซื้อเมื่อสูงขึ้นไปมากแล้วการถือยาว .. ก็มีความเสี่ยง ของ "ความผันผวนจากค่าเงิน"ยกตัวอย่าง .. ในราคาที่ผมยังถือไว้ .. เพราะเล่นยาว
คือ $869-893-913 .. เป็นราคาที่ต่ำมากพอสมควร
แต่ผมเข้าซื้อตอนที่ .. ค่าเงินบาท เป็น .. 36-35
ดังนั้น มูลค่าทองคำ .. ที่หายไปจากค่าเงินบาท .. ที่แข็งค่าขึ้น
เมื่อเทียบกับเวลานี้ที่ ค่าเงินบาท 34 จะหายประมาณ 2-1.50 บาท
หรือมูลค่าราคาทองคำจะหายไป .. 425 บาท(ทอง) / ค่าเงินที่ลดลง 1 บาท
ค่าเงินบาทที่ลดลง 2-1.50 บาท เท่ากับมูลค่าทองคำหายไปถึง 640-850 บาท(ทอง)ดังนั้น ราคา spot gold price .. ที่ผมเก็บเข้า "เพื่อลงทุนระยะยาว"
จาก Spot : 869-893-913 จึงไม่ต่างกับราคา spot 92x - 94x ในเวลานี้ (ที่ค่าเงินบาท 34)
การถือยาว .. อาจทำให้เกิด "ค่าเสียโอกาส : Opportunity Cost"การลงทุนระยะยาว .. นอกจากจะ "มีความเสี่ยง" จาก "ค่าเงินที่ผันผวน" แล้ว
การรอสัญญาณ(ซื้อ) .. ขาย ยังทำให้เสียโอกาส "ในการทำกำไร .. ระยะสั้น" (ที่ควรจะได้)
เข้าใจว่า .. เพราะมี "การตั้งค่า Default ของสัญญาณขายระยะยาว" ให้ได้กำไรตาม "percentage (%)" .. ที่กำหนดไว้ จากกราฟ .. จะเห็น "สัญญาณซื้อ" (ลูกศรสีเขียว) และ "สัญญาณขาย" (ลูกศรสีแดง)
ครั้งที่ 1 : $720-892 = +$172 ..
+23.88% >> ยังไม่มีสัญญาณขายครั้งที่ 2 : $720-1007 = +$287 ..
+39.86% >> มีสัญญาณขายครั้งที่ 3 : $905-989 = +$84 .. +9.28% >> ยังไม่มีสัญญาณขาย
ครั้งที่ 4 : $905-1011 = +$106 .. +11.72% >> ยังไม่มีสัญญาณขาย
จะเห็นได้ว่า .. มีการตั้งค่า Percentage Profit .. หรือมีการกำหนด % การทำกำไรไว้ .. สูง (อย่างน้อยเกินกว่า 25%)
ซึ่งอาจทำให้เราเสียโอกาส (รอบ) .. การทำกำไรระยะสั้นไป
อย่างรอบที่ราคาขึ้นมาจาก $720-1007 .. ถ้าเราแบ่งการทำกำไรเป็น 2 รอบ คือ
$720-892 = +$172 .. 23.88%
$801-1007 = +$206 .. 25.72%
เราจะได้กำไร .. จากการเล่นรอบระยะสั้น $172+206 = +$378 .. +49.6% แต่! "การเล่นระยะยาว .. แบบรอสัญญาณซื้อ" เราได้กำไรเพียง .. +39.86%ซึ่งจาก "การลงทุนระยะยาว .. แบบรอสัญญาณขาย" ในรอบนี้! (ตั้งแต่ราคาลงมาปรับฐานจบที่ .. $865 เดือนเมษา)
จะเห็นว่า .. สัญญาณซื้อ (ลูกศรสีเขียว) ได้เกิดขึ้นที่ราคาประมาณ .. $905
แม้จะมีการจบคลื่นย่อย (i) ที่ราคา .. $989.80 ไปแล้ว (เมื่อเดือน มิถุนายน)
แต่สัญญาณขาย .. ก็ยังไม่เกิดขึ้น แต่ราคากลับลงมาปรับฐาน จนจบคลื่นย่อย (ii) ที่ .. $905.10 อีกครั้ง
นั่นหมายถึง ..
เราเสียรอบ หรือเสียโอกาสในการทำกำไรระยะสั้นไป .. 9.28% หรือ +$84 (โดยที่สัญญาณขาย .. ยังไม่เกิดขึ้น)ซึ่งเมื่อราคาลงมาปรับฐาน ที่คลื่นย่อย (ii) ที่ $905.10 .. จึงเท่ากับว่า ราคาที่ลงมาปรับฐาน ใกล้เคียงตรงที่เพิ่งมีสัญญาณซื้อเข้า
เท่ากับเราเสียเวลา .. เริ่มเก็บเข้าที่เดือน เมษา-พฤษภา .. โดยที่ไม่ได้เกิด "ผลประโยชน์ ออกดอก+ออกผล"
มิหนำซ้ำ .. ราคาที่เราเก็บเข้าที่ $905 (ตอนที่เริ่มมีสัญญาณซื้อ .. เมื่อเดือน เมษา)
ค่าเงินบาท อยู่ที่ประมาณ 35.45 หรือ ราคาทองคำบาทไทย = 15050/151050
แต่ราคา $905-910 ที่ลงมาจบคลื่น (ii) ย่อย ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.09 คิดเป็นราคาทองคำบาทไทย = 14700/14800
กลายเป็นว่า
"การลงทุนระยะยาว แบบรอสัญญาณขาย" ทำให้เกิด การขาดทุนกำไรไปถึง -350 บาททอง
(ราคาทองคำย้อนหลัง : http://www.ranthong.com/webboard/gp.php )
อนึ่ง! .. จากการที่ราคาทองคำขยับสูงขึ้น เพื่อให้มีสัญญาณขาย ตาม % ที่กำหนดไว้
หมายความว่า .. US Dollar น่าจะอ่อนตัวลงไปเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้ "ค่าเงินบาทแข็งขึ้น"
และเมื่อค่าเงินบาทแข็งตัวขึ้น .. หมายถึง มูลค่าทองคำลดลง / ถูกลงด้วยเหตุนี้ : ผมจึงเปลี่ยนแนวทางการลงทุน .. จากระยะยาว
เป็น "การลงทุนตามคลื่น Elliott Wave" .. ดังเสนอแนวทางการลงทุนไว้ต้นกระทู้
แต่ที่ยังอธิบายไม่หมด / ไม่จบ .. เพื่อรอ "สร้างฐานข้อมูลกราฟ" ที่จะนำมาอธิบายประกอบครับ