Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: พระปูนปิดทอง (หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตร)  (อ่าน 12658 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
zyme
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: กันยายน 09, 2009, 07:56:45 PM »

พระปูนปิดทอง

ไทยรัฐ  [19 ส.ค. 50 - 16:29]





ประวัติพระพุทธรูปทอง ที่เขียนโดยนายฉันทิชย์ กระแสสินธุ์ กล่าวถึงวัดพระยาไกร...ไว้ว่า ผู้สร้างไม่ใช่พระยาไกรเพชรสงคราม หรือพระยาไกรโกษา แต่เป็นพระยาโชฎึกราชเศรษฐี (เจ๊สัวบุญมา) ข้าหลวงเดิม สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 แล้วถวายเป็นวัดหลวง

ในสมัยรัชกาลที่ 4 พ.ศ. 2400 วัดพระยาไกร มีบันทึกเป็นทางการว่า วัดโชตินาราม ไม่มีเจ้าอาวาส มีเรื่องปรากฏในหมายรับสั่ง...ดังต่อไปนี้

อนึ่ง เวลา 5 โมงเช้าเศษ นายจำนง กรมวัง สั่งมาว่า ด้วยพระศุภรัตกาศายานุ รับราช โองการใส่เกล้า...ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า สั่งว่า ทรงตั้งพระวินัยธร (จัน) วัดราชบูรณะ เป็นพระครูสาธุกิจการี ไปอยู่วัดโชตินาราม นิตยภัตขึ้นใหม่ 2 ตำลึง 2 บาท....

ให้ชาวพระคลังสมบัติจ่ายเงิน กรมนาจ่ายข้าวสาร เดือนละ 15 ทะนาน ให้แก่กัปปิยการก ของพระครูสาธุกิจการี ให้จ่ายตั้งแต่ ณ เดือน 2 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ นพศกไป ให้จ่ายเสมอทุกเดือน อย่าให้ขาดตามคำสั่ง

วัดพระยาไกร เริ่มร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 พระอุโบสถ วิหารพัง จนเกือบไม่เหลืออะไรให้เห็นว่าเป็นวัด จนเมื่อบริษัทอิสเอเซียติ๊ก ยื่นหนังสือขอเช่า และได้รับอนุมัติจากทางการ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) มีบัญชาให้คณะกรรมการวัดสามจีน (วัดไตรมิตร) ไปอัญเชิญมา

สภาพวัดพระยาไกร เมื่อ พ.ศ.2478 เหลือพระพุทธรูปขนาดใหญ่สององค์ องค์หนึ่งเป็นสัมฤทธิ์ วัดไผ่เงินนำไปประดิษฐานไว้ก่อนแล้ว เหลือพระพุทธรูปปูนปั้นองค์ใหญ่หน้าตัก 6 ศอก 5 นิ้ว สูงจากทับเกษตร ถึงเปลวพระเกตุมาลา 7 ศอก 1 คืบ 9 นิ้วเหลือทิ้งไว้

กระบวนอัญเชิญพระปูนปั้นใหญ่...สะดวกเรียบร้อยทุกประการ บริษัทอิสเอเซียติ๊ก จัดรถบรรทุกใหญ่ให้ 1 คัน ช่วยอัญเชิญพระขึ้นรถแล่นมาตามถนน...ผ่านสายไฟฟ้ารถราง หรือสายโทรศัพท์ ก็ช่วยกันเอาไม้ค้ำให้สูงพ้นพระเกตุมาลา เป็นครั้งคราว

ถึงวัดไตรมิตร คณะกรรมการเห็นว่าโบสถ์วิหาร เก่าแก่เต็มที ยังไม่เหมาะ...ที่จะนำพระ ใหญ่เข้าไปไว้ จึงนำไปประดิษฐานไว้ข้างเจดีย์ ปลูกเพิงสังกะสีไว้พอกันแดดกันฝน

ระหว่างเวลานี้ มีผู้ขอพระพุทธรูปใหญ่ องค์ นี้ ไปหลายราย รายหนึ่งมาเจรจาขอท่านไปเป็นพระประธานวัดช่อแฮ จังหวัดแพร่ ท่านเจ้าคุณพระวีรธรรมมุนี (ไสว ฐิตวีโร) เห็นว่าพระประธานวัดไตรมิตรก็มีแล้ว หากให้ท่านไปเป็นพระประธานวัดอื่น จะเป็นการสืบต่ออายุพระศาสนา...ก็อนุญาตให้ไป

แต่รายนี้ ก็ติดขัดไม่สามารถอัญเชิญท่านไปได้

รายที่มาขอต่อมา ขาดแคลนพาหนะ รายหลังวางแผนที่จะอัญเชิญท่านไปทางรถไฟ แต่เมื่อวัดความกว้างความสูงของ พระ...ไปวัดกับขนาดของสะพานรถไฟก็พบว่า ส่วนพระเกตุ มาลาสูงกว่าสะพานรถไฟ อัญเชิญท่านไปไม่ได้อีก

รายสุดท้าย...มาขอไปเป็นพระประธานวัดบ้านบึง (วัดบึงบวรสถิตย์ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี)...พระวีรธรรมมุนี ตกลงให้ แต่ เมื่อฝ่ายวัดบ้านบึงมาดูองค์พระอีกครั้ง ติว่า “ท่าน ไม่งาม” ไม่สมกับเป็นพระ ประธาน...ขอกลับใจ... ไม่เอา

พระปูนปั้นองค์ ใหญ่...ก็ต้องกรำแดดกรำฝนอยู่ในเพิงสังกะสี วัดไตรมิตรต่อไปอีก

วันเวลาผ่านมาอีก 20 ปี วัดไตรมิตรสร้างโบสถ์วิหารหลังใหม่เสร็จแล้ว ก็คิดกันว่าจะอัญเชิญพระปูนปั้นองค์นี้ ขึ้นไปประดิษฐานบนวิหาร

วันที่ 25 พ.ค.2498 ถึงกำหนดอัญเชิญท่าน...กระบวนการชักรอกเอาองค์ท่านขึ้น เริ่มครั้งแรกเมื่อเพล...จนพลบ ก็ยกท่านขึ้นไม่ได้ ครั้งสุดท้าย...ยกสูงได้หนึ่งฝ่ามือ...

ขอที่เกี่ยวองค์พระด้านหนึ่งก็ขาด...พระปูนก็หล่นลงกระแทกพื้น...เสียงดังสนั่น

เวลาก็เริ่มมืด...พายุฝนฟ้าอสุนีบาตก็คะนอง...ฝนก็ตกหนัก....คณะกรรมการตัดสินใจเลิก นัดวันรุ่งขึ้น ค่อยมาเริ่มใหม่

คืนวันนั้น...ท่านเจ้าคุณวีรธรรมมุนี...นิมิตว่า มีกุลสตรีสูงศักดิ์ แต่งร่างอย่างนางกษัตริย์สมัยโบราณ ประคองพานใส่สังวาลเพชร... มาถวาย

เช้าขึ้นมา...ฝนยังตกปรอยๆ ท่านเจ้าคุณเดินฝ่าสายฝน ไปถึงพระปูนปั้น...ท่านถึงกับสะดุ้งสุดตัว เมื่อมองไปที่พระอุระของพระ...มีรอยแตกกะเทาะ...ปูนหล่นมากองที่พื้นดิน

เนื้อในพระลงรักทับไว้สนิทอีกชั้น เมื่อแกะรักออก ก็พบเนื้อในเป็น ทองคำแท้...ส่งประกายอร่าม...จับตา

แล้วพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองขนาดใหญ่ องค์ที่ถูกหลายฝ่ายเมิน ผลักไสไม่สนใจ ก็กลายเป็นพระพุทธรูปทองคำ น้ำเจ็ดสองขา (รองจากทองเนื้อเก้า) น้ำหนักทอง 5 ตันครึ่ง ศิลปะสุโขทัย สมัยคลาสสิก...งดงามที่สุด มีมูลค่าเกินประเมินประมาณได้

กินเนสส์บุ๊ก บันทึกว่า นี่คือพระพุทธรูปทองคำองค์ที่สวยที่สุด และใหญ่ที่สุดในโลก.

(บริจาคสมทบทุน โครงการจัดสร้างพระมหามณฑปประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ) สำนักงานโครงการวัดไตรมิตร โทร. 0-2623-1227 0-2222-7470).

บาราย
บันทึกการเข้า
zyme
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 09, 2009, 07:59:58 PM »

เรื่องเล่าพระทองคำ

ไทยรัฐ  คัมภีร์แผ่นดิน  [5 ส.ค. 50 - 17:07]



 
นิยายปรัมปรา หรือเรื่องเขาเล่าว่า ทั้งที่จดบันทึกเป็นหลักฐาน หรือเป็นเรื่องเล่าปาก ต่อปาก ซึ่งมักโลดโผนโจนทะยาน แต่กระนั้น คนเล่าก็ยังเหลือเค้าเงื่อน ขานรับกับร่องรอยหรือหลักฐาน ที่ยังเหลืออยู่

ตรงที่เรื่องเล่า...ยังพอมี “เค้า..” นี่แหละ นักวิชาการสมัยใหม่ เริ่มให้ความสนใจกับเรื่องเขาเล่าว่ามากขึ้น หลายคน นำไปเชื่อมโยง กับประจักษ์ หลักฐาน ชี้ชัดบางเรื่องราวในอดีตได้อย่าง..ไม่น่าเชื่อ

แต่เรื่องเล่าส่วนใหญ่...ปล่อยให้เล่ากันไป เค้าลางของความจริง ซึ่งเหลืออยู่น้อย ก็ยิ่งน้อยลง

วารสารเมืองโบราณ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2 คุณปราณี กล่ำส้ม บันทึก เรื่องเล่าจากชาวสะพานหัน ไว้หลายเรื่อง นายเทียนชัย จึงแย้มปิ่น ผู้เล่า เกิดที่สะพานหัน เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2466 ทุกเรื่องเล่า ได้ยินเขาเล่าต่อๆกันมาตั้งแต่เป็นเด็ก

ตัวอย่างหนึ่ง..ของเรื่องเล่า ต้นตระกูล จึงแย้มปิ่น ของคุณเทียนชัย ลี้ภัยการเมืองมาจากเมืองจีน สมัยเช็ง คนในสายสกุลเล่ากันต่อๆมาว่า “ท่าน” เป็นองค์ชายสอง

เบื่อหน่ายที่พี่น้องฆ่าฟันแย่งชิงอำนาจกันเอง จึงหนีมาอยู่เมืองไทย ค้าขายร่ำรวย บริจาคที่ดินสร้างวัดเล่งเน่ยยี่..มีหลักฐานเป็นเจดีย์องค์หนึ่ง เป็นที่บรรจุอัฐิ บรรพบุรุษ

เรื่องน่าสนใจขึ้นมา ตรงที่วัดเล่งเน่ยยี่ต้องการพัฒนาที่ดิน ขอให้ญาติมารื้อเจดีย์ แต่ญาติซึ่งปัจจุบัน เป็นคนใหญ่โตในหลายสกุล..ไม่ยอม พยายามยื้อไว้

เรื่องเล่า..ที่มีเกร็ด..น่าสนใจทำนองนี้ มีอยู่มาก.. เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่ง ที่นอกจากมีการเปิดเว็บไซต์ปะทะคารมกันแล้ว ท่าทีจากนักเลงประวัติศาสตร์โบราณคดี ...ไม่มีมาเกื้อหนุน เรื่องจึงทำท่าจะจางหาย จบลงแบบ.. ไม่สะใจเท่าที่ควร

อีกเรื่อง ที่ขอบันทึกซ้ำ...มาเล่าสู่กันฟัง คุณเทียนชัยเล่าเรื่องพระทองคำวัดไตรมิตร ไว้น่าสนใจไม่น้อยเหมือนกัน

เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 พวกเยอรมันที่มาค้าขายอยู่ในไทย ได้เงินไว้มาก แต่จะขนเงินกลับไปก็กลัว จึงซื้อทองคำมาหลอมเป็นองค์พระ แล้วเอาปูนซีเมนต์พอกไว้ เตรียมนำไปต่างประเทศ โดยอ้างว่าจะนำพุทธศาสนาไปเผยแพร่ที่เยอรมัน

แต่ไม่ทันได้เอาไป รัชกาลที่ 6 ท่านประกาศสงครามกับเยอรมันก่อน พระองค์นั้นจึงถูกทิ้งไว้ที่ท่าเรือวัดพระยา-ไกร ตอนหลังมีคนต้องการสถานเป็นที่ตั้งกองทัพญี่ปุ่น จึงต้องนำพระองค์นี้ไปไว้ที่วัดสามจีน

พ.ศ.2485 น้ำท่วมใหญ่ พื้นดินก็ทรุด พระองค์นี้พิงกับตึกข้างวัด คนอยู่ในตึกอยากเจาะหน้าต่าง..ด้านที่ตรงกับพระ ก็เจาะไม่ได้ จึงติดต่อ ส.ธรรมภักดี..มาช่วยดึงพระออก ช่วงที่ดึงพระ ปรากฏว่าปูนที่พอกแตกหลุดร่วง เห็นรักที่ทาองค์พระ มีคนไปขูดรักก็เห็นเนื้อทองคำเหลืองอร่าม ก็ตกใจ

เรื่องเล่าเรื่องนี้ จบลงง่ายๆ..ในที่สุด พระทองคำองค์นี้ จึงไปอยู่วัดไตรมิตร (สามจีน)

แต่เรื่องราวที่มีผู้ค้นคว้า และเชื่อถือกัน กลับมีว่าพระทองคำองค์นี้ เดิมทีอยู่แถวจังหวัดภาคเหนือ ขุนนางใหญ่ผู้หนึ่งพบเข้าก็นำมาเก็บไว้รวมกับพระพุทธรูปใหญ่ๆ หลายองค์ที่วัดพระยาไกร

พ.ศ.2478 วัดนี้เป็นวัดร้าง คณะสงฆ์ขอร้องให้วัดข้างเคียง ช่วยนำพระพุทธรูปไปดูแลรักษา

วัดไตรมิตร ได้มาไว้จนถึงปี 2498 ช่วงเวลาที่ทางวัดสร้างวิหารเป็นที่ประดิษฐาน และมีความพยายามจะยกพระขึ้นไปประดิษฐาน จึงพบกันในช่วงนั้นว่า เนื้อในเป็นทองคำ

เมื่อลอกเอาปูนที่พอกออกหมดแล้ว ใต้ฐานทับเกษตรองค์พระ พบกุญแจกลสำหรับถอดแยกองค์พระออกเป็นเก้าส่วน รวมทั้งเนื้อทองคำสำรอง และมุกใส่พระเนตรไว้ครบถ้วน

เป็นอันว่า ปัญหา เรื่องยกพระขึ้นประดิษฐาน... ก็หมดไป

พ.ศ.2435 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดฯพระราชทานนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร.

บาราย
 
บันทึกการเข้า
zyme
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 09, 2009, 08:01:34 PM »

เห็นคุณพอลเอามาลง  เลยนำเรื่องราวมาลงให้อีกครั้งนึ่งจากเวปร้านทอง

เปิดกระทู้ใหม่เพราะ admin ล็อคไม่ให้ตอบหัวข้อนั้น  "งอน"...


ให้เพื่อน ๆ สมาชิกได้ทราบความเป็นมาและที่มาครับ
บันทึกการเข้า
ET
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20


« ตอบ #3 เมื่อ: กันยายน 09, 2009, 08:04:21 PM »

แหมๆ หัวก็ไม่ได้ล้าน(เยอะ) ซะหน่อย ทำเป็นคนใจน้อย น้อยใจไปได้.... 
บันทึกการเข้า
mint
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1374


อย่ารับมีดที่ตกจากท้องฟ้า


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: กันยายน 09, 2009, 08:10:37 PM »

แหมๆ หัวก็ไม่ได้ล้าน(เยอะ) ซะหน่อย ทำเป็นคนใจน้อย น้อยใจไปได้.... 

เราว่าน่าจะล้านป่ะคะ ที่อีทีเห็นอาจจะใส่วิกก้อได้   อิอิ  แซวเล่นนะคะ
บันทึกการเข้า

  สมอง ช่วยตัดสินใจได้ดีกว่า ต่อมอดีนาลีน     
paul711
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4406


Gold is value because it's value!


« ตอบ #5 เมื่อ: กันยายน 09, 2009, 10:42:57 PM »

 Smiley ขอบคุณครับคุณ irish รายละเอียด ครบถ้วน แต่ความจริงเป็นอย่างไร ไม่มีใครรู้แน่ บางกระแสก็ว่า สร้าง
ในสมัยพ่อขุนรามคําแหงมหาราช ที่พิษณุโลก ในยุคเดียวกับ หลวงพ่อพุทธชินราช
แต่ได้อ่านที่คุณ irish เอามาลง ก็ สมบูรณ์แบบครับ
อย่างอนไปเลยครับ ผมล๊อกไว้ จะได้ดูสะอาด เกลี้ยงๆ ให้รู้สึกสงบ  ให้มีความรู้สึกเหมือนได้ไปกราบท่านจริงๆ รูปที่ผมถ่ายมาดูให้ดีๆครับ  จะมีบาอย่างแตกต่างจากรูปที่คนอื่นถ่ายไว้
แล้วผมจะคัดลอกไปตืดให้แล้วกัน
บันทึกการเข้า

ผมไม่ใช่กูรูเรื่องทอง ไม่เคยเขียนหรือพูดแม้แต่ครั้งเดียวว่าเก่งเรื่องทองอ่านที่ผมเขียน แล้วตัดสินใจเอง เกิดผิดพลาด ต้องรับผิดชอบเองอย่าโทษผู้อื่นว่าพลาดเพราะไปเชื่อคนอื่น ไม่มีใครบังคับให้ท่านเชื่อ ผมเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา----Paul711 
จุดหมาย 1) ทองแท่ง ให้ได้กําไร อย่างน้อย 10% ทุก 3 เดือน 2) Gold Future ให้ได้กําไรอย่างน้อย 5% ทุกเดือน 3) gold online ให้ได้กําไร อย่างน้อย 5% ทุกเดือน 
ชีวิตต้องมีหลักและจุดหมายที่ดีและแน่นอน ชีวิตที่ไม่มีหลักที่ดีเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวก็เปรียบเหมือนเรือที่ไม่มีหางเสือ ใครชวนให้ทําดีก็ดีไป ใครชวนให้ทําเรื่องไม่ดี ก็จะพบกับความล้มเหลวและภัยพิบัติได้


http://ichpp.egat.co.th/

Gold2Gold.com
starbarge
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 254


« ตอบ #6 เมื่อ: กันยายน 12, 2009, 06:05:55 PM »

ขอบคุณค่ะ สำหรับประวัติพระพุทธรูป หลวงพ่อทองคำ
เวลาไปกราบท่านจะได้ ไม่กระทำแบบผิวเผิน
พระแต่ละองค์ท่าน๋ผ่านกาลเวลามาหลายสมัย
คลื่นความศรัทธาของผู้คนมาหลายรุ่น
เราเหมือน ผู้มาเยือน visitor ที่ผ่านมาแล้วก็จากไป
ด้วยกฎไตรลักษณ์  แต่ท่านยังเป็นตัวแทนศาสนา
สู่รุ่นต่อไป ขอบคุณค่ะที่บอกทางบุญ จะได้
มีส่วนร่วมในการสืบทอดศาสนาตามกุศโลบายของบรรพบุรุษ
และเป็นแนวทางของพุทธมามะกะรุ่นต่อๆไป อนุโมทนาบุญค่ะ
บันทึกการเข้า
su_47
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 90


« ตอบ #7 เมื่อ: กันยายน 22, 2009, 06:35:54 PM »

เห็นคุณพอลเอามาลง  เลยนำเรื่องราวมาลงให้อีกครั้งนึ่งจากเวปร้านทอง
เปิดกระทู้ใหม่เพราะ admin ล็อคไม่ให้ตอบหัวข้อนั้น  "งอน"...
ให้เพื่อน ๆ สมาชิกได้ทราบความเป็นมาและที่มาครับ

ขอบคุณครับคุณ irish รายละเอียด ครบถ้วน แต่ความจริงเป็นอย่างไร ไม่มีใครรู้แน่ บางกระแสก็ว่า สร้าง
ในสมัยพ่อขุนรามคําแหงมหาราช ที่พิษณุโลก ในยุคเดียวกับ หลวงพ่อพุทธชินราช
แต่ได้อ่านที่คุณ irish เอามาลง ก็ สมบูรณ์แบบครับ
อย่างอนไปเลยครับ ผมล๊อกไว้ จะได้ดูสะอาด เกลี้ยงๆ ให้รู้สึกสงบ  ให้มีความรู้สึกเหมือนได้ไปกราบท่านจริงๆ รูปที่ผมถ่ายมาดูให้ดีๆครับ  จะมีบาอย่างแตกต่างจากรูปที่คนอื่นถ่ายไว้
แล้วผมจะคัดลอกไปตืดให้แล้วกัน

มีงอนมีง้อกันด้วย น่ารักจริงๆสมากชิก  Grin
บันทึกการเข้า
yoh
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 201



« ตอบ #8 เมื่อ: กันยายน 22, 2009, 06:44:31 PM »

Smiley ขอบคุณครับคุณ irish รายละเอียด ครบถ้วน แต่ความจริงเป็นอย่างไร ไม่มีใครรู้แน่ บางกระแสก็ว่า สร้าง
ในสมัยพ่อขุนรามคําแหงมหาราช ที่พิษณุโลก ในยุคเดียวกับ หลวงพ่อพุทธชินราช
แต่ได้อ่านที่คุณ irish เอามาลง ก็ สมบูรณ์แบบครับ
อย่างอนไปเลยครับ ผมล๊อกไว้ จะได้ดูสะอาด เกลี้ยงๆ ให้รู้สึกสงบ  ให้มีความรู้สึกเหมือนได้ไปกราบท่านจริงๆ รูปที่ผมถ่ายมาดูให้ดีๆครับ  จะมีบาอย่างแตกต่างจากรูปที่คนอื่นถ่ายไว้
แล้วผมจะคัดลอกไปตืดให้แล้วกัน

สวัสดีครับป๋า ที่ว่าแตกต่างนี่ตรงแบคกราวหรือเปล่าครับ เห็นวงกลมสีขาวอยู่หลายวงอ่ะครับ
บันทึกการเข้า
yoh
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 201



« ตอบ #9 เมื่อ: กันยายน 22, 2009, 06:53:58 PM »

ขอขอบคุณ คุณ IRISH ครับที่ให้ข้อมูล
บันทึกการเข้า
foot7864
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2012, 06:45:57 PM »

อยากได้มากเลยครับ
บันทึกการเข้า
crazytuckie0653
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 09:24:12 AM »

เจ๋งดีนะ
บันทึกการเข้า
arikorgu
พระชัยวัฒน์
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: เมษายน 25, 2012, 01:14:52 PM »

สวยมากครับ
บันทึกการเข้า

I_am_nansy
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2012, 09:42:05 AM »

ยอดเยี่ยมจร้า
บันทึกการเข้า
Wzytitiyatot
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: สิงหาคม 14, 2012, 07:40:32 PM »

เจ๋งดีๆ
บันทึกการเข้า
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: